มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งผิวหนัง เป็นมะเร็งที่เจริญช้า ๆ อย่างไร้ทิศทาง มีการแพร่กระจายไปทางกระแสเลือดและต่อมน้ำเหลืองน้อย พบบริเวณศีรษะประมาณ 80-90% และที่ใบหน้า 65% ได้แก่ ตา หู จมูก และบริเวณผิวหนังทั่วๆ ไป การรักษามะเร็งผิวหนังจะได้ผลดี ถ้าพบในระยะแรกเริ่ม
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- มะเร็งผิวหนังชนิดเบซัลเซลล์ (Basal cell carcinomasหรือBCCs)
- มะเร็งผิวหนังชนิดสะความัสเซลล์ (Squamous cell carcinomasหรือSCCs)
- มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา (Cutaneous malignant melanomasหรือCMs)
*ซึ่ง BCCs และSCCs เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อบุผิวของผิวหนัง จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "มะเร็งผิวหนังประเภทไม่ใช่เมลาโนมา (Non melanoma skin cancer)"
ปัจจัยที่เป็นสาเหตุการเกิดมะเร็งผิวหนัง
- กรรมพันธุ์ เช่น มีสีผิวอ่อน ถูกแดดเผาได้ง่าย ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้มากกว่า
- แสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลตทั้ง UVA และ UVB
- สารเคมี เช่น สารหนูที่ปนอยู่ในน้ำ
- ไฝ กระ มากผิดปกติ, หูด ปาน หรือแผลเรื้อรังที่มีการระคายเคืองเป็นเวลานานๆ
- แผลเป็นเนื่องจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อาจทำให้กลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้
- มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนัง
อาการที่บ่งบอกว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง
- ผื่นหรือก้อนที่เป็นอยู่เดิมมีรูปร่างเปลี่ยนแปลงไป
- มีผื่นหรือก้อนที่เกิดขึ้นใหม่และไม่หายใน 4-6 สัปดาห์
- ไฝ ปานที่โตเร็ว มีสีและรูปร่างเปลี่ยนไปจากเดิม มีอาการคันแตกเป็นแผล และมีเลือดออก
- แผลเรื้อรังไม่หายภายใน 4 สัปดาห์

การรักษามะเร็งผิวหนัง
การรักษามะเร็งผิวหนังมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิด ตำแหน่ง และการลุกลามของโรค โดยทั่วไป มักใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อเอามะเร็งออก
ถ้ารอยโรคมีขนาดเล็กกว่า 2 เซนติเมตร อาจใช้วิธีรักษาโดยการขูดออกร่วมกับการจี้ด้วยไฟฟ้าหรือจี้ด้วยไนโตรเจนเหลว แต่ถ้ามะเร็งกระจายไปส่วนอื่นแล้ว อาจต้องใช้เคมีบำบัด บางครั้งอาจต้องใช้การฉายแสงร่วมด้วย เช่น มะเร็งแพร่กระจายไปยังกระดูกและสมอง
การผ่าตัดมะเร็งผิวหนังออกให้หมดยังมีปัญหา เนื่องจากเราไม่สามารถรู้ขอบเขตการกระจายของมะเร็ง จึงมีการคิดค้นวิธีการผ่าตัดที่เรียกว่า Mohs Micrographic Surgery (MMS) ซึ่งจะช่วยผ่าตัดมะเร็งผิวหนังออกได้หมด ถึงแม้ขอบเขตของมะเร็งจะเห็นไม่ชัด และสูญเสียเนื้อเยื่อปกติบริเวณรอบ ๆ รอยโรคได้น้อยที่สุด การรักษาวิธีนี้ได้ผลดี 90-95%
การทำผ่าตัดด้วยวิธี MMS
เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ละเอียดและแม่นยำในการรักษามะเร็งผิวหนัง สูญเสียผิวหนังที่เป็นปกติในบริเวณข้างเคียงน้อยที่สุด ด้วยวิธีการตัดมะเร็งออกทีละชั้นเป็นชั้นบางๆ แล้วน้ำชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยาด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อดูว่าตำแหน่งใดที่ยังมีมะเร็งเหลืออยู่ ถ้ายังพบเซลล์มะเร็ง แพทย์จะกลับไปผ่าตัดซ้ำด้วยวิธีเดิมจนกว่าจะไม่พบเซลล์มะเร็งเหลืออยู่ บางครั้งอาจต้องทำผ่าตัดซ้ำด้วยวิธีเดิม 2-3 ครั้งหรือมากกว่านั้น
แต่ในบางครั้ง มะเร็งถูกทิ้งไว้นานจนทำให้มีขนาดใหญ่เกินที่จะตัดออกได้หมด หรือมีการแพร่กระจาย กรณีนี้ อาจต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้รังสีรักษา หรือเคมีบำบัด
มะเร็วผิวหนังที่ควรรักษาด้วยวิธี MMS
- มะเร็งผิวหนังที่กลับเป็นซ้ำ
- มะเร็งผิวหนังมีขนาดใหญ่กว่า 2 เซนติเมตร
- มะเร็งผิวหนังปฐมภูมิ
- มะเร็งผิวหนังที่เจริญอย่างรวดเร็วและรุนแรง
- มะเร็งผิวหนังที่มีขอบเขตไม่ชัดเจน
- มะเร็งผิวหนังที่เกิดบนแผลเป็น
- มะเร็วผิวหนังที่ตัดออกไม่หมด หลังทำการผ่าตัดด้วยวิธีธรรมดา
การป้องกัน
แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง เราควรหลีกเลี่ยงแสงแดดซึ่งมีวิธีปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 15 ทาก่อนออกแดดประมาณ 15 นาที และควรทายากันแดดซ้ำอีกครั้งทุกๆ 3-4 ชม.
- ก่อนออกนอกบ้านควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวก ร่ม หรือเสื้อปกปิดเพื่อป้องกันแสงแดด
- ผู้ป่วยมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนัง ควรมาพบแพทย์เพื่อการตรวจค้นหามะเร็งตั้งแต่ระยะแรก
ที่มา : ภาควิชาตจวิทยา Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล